วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

แวะไปชิม "บ้านเกื้อเพลส & สปอร์ตคลับ" ตอนที่ 1ร้านอาหารกึ่งผับ












































แวะไปชิม "บ้านเกื้อเพลส & สปอร์ตคลับ" (ตอนที่ 1)
ร้านอาหารกึ่งผับของโคราชนั้นก็มีมากมายหลายร้านด้วยกัน หนึ่งในร้านอาหารร้านนึงที่จะมาแนะำนำให้รู้จักก็คือ บ้านเกื้อเพลส&สปอรต์คลับ .. แต่สำหรับคนทัวไปนั้นก็จะเรียกกันว่าบ้านเกื้อเฉยๆ ร้านนี้เป็นร้านอาหารร้านนึงที่ผมเข้าไปแวะเวียนบ่อยมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันไหนที่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลแล้ว ผมจะมาร้านนี้เสียเป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุผลอะไรนั่นหรือ? ก็เพราะว่าร้านนี้ถ่ายทอดฟุตบอลได้จอใหญ่ดี และมี 2 tuner ทำให้สามารถดูได้ 2 คู่พร้อมๆกันได้ แจ๋วมั้ยล่ะ ร้านบ้านเกื้อนี้เค้ามีบริการหลายอย่างมาก ครบวงจรจริงๆ เหมือนที่เค้าโฆษณาไว้ อันดับแรกๆเลยนะครับ คือ ส่วนของร้านอาหารกึ่งผับ ที่บรรยากาศโปร่ง สบายมากๆ เพราะร้านนี้ไม่ได้จัดโต๊ะให้แน่นขนัด จนอึดอัดแบบร้านอื่นๆ ร้านนี้นั่งกันสบายๆ มีดนตรีสดบรรเลิงให้ฟังตั้งแต่หัวค่ำยันตี 2 ครับ นักดนตรีก็หมุนเวียนมาเล่นทั้งคืน วันไหนที่ถ่ายทอดสดฟุตบอล นักดนตรีก็อาจจะแอบงอนนิดๆ ว่า ทำไมไม่ฟังเพลงตรูเลย ดูแต่บอลกัน T T ส่วนของร้านอาหารนี้ ขอบอกว่า อร่อย! ไม่แพงเว่อร์ เร็ว ด้วยครับ เพราะร้านนี้ใช้พ่อครัวเยอะครับ ของสดใหม่ทุกวัน มีหลายเมนูที่ผมไปกินมาหลายที่แล้ว ผมชอบรสชาติของร้านนี้มากกว่า เช่น แป๊ะซะปลาช่อน (ขายดีมากๆๆ) หรือ ปลากระพงทอดน้ำปลา ซึ่งผมว่า ร้านนี้อร่อยมากครับ เทียบกับร้านอื่นในดคราชที่เคยไปกินมา ผมว่าร้านนี้ไม่เป็นรองใคร เรื่องเครื่องดื่ม เหล้ายาปลาปิ้งก็สบายๆครับ มิกเซอร์ราคา 15 บาท เท่านั้นครับ เมื่อเทียบกับร้านอาหารอื่นๆ ในโคราช บางร้านนี่เล่นล่อไป 20-25 กันแล้ว แพงเกินครับอย่างนั้น มากินร้านนี้ก็สบายกระเป๋าดีครับ เหล้าหมดขวด มิกเซอร์ 20 อย่างไปเลย ก็แค่ 300 ครับสำหรับมิกเซอร์ ส่วนหนึ่งที่ขอแนะนำมากๆคือ ที่บ้านเกื้อนี้ในโต๊ะนั่งครึ่งนึงของร้าน (ในส่วนร้านอาหาร) มีบริการอินเตอร์เน็ตให้ด้วยครับ หยอดเหรียญ 10 บาท ก็ใช้งานได้เลย
ร้านเหล้าอื่นๆ ไม่มีใครกล้าทำครับ อาจเพราะกลัวเปียก แต่ร้านนี้เค้าทำมาได้สักพักแล้วครับ แล้วผลตอบรับก็ดีมาก อย่างเช่นในโต๊ะนั่งกินกัน อาจมีบางคนไม่รู้จะคุยอะไรก็นั่งเล่นเน็ต อ่านข่าวกันไป สบายๆ บางคน (อย่างผมเป็นต้น) นั่งทำงานกันที่ร้านเลยก็มี เบียร์เหยือก นั่งป๊าบ ทำงานได้ครับ กินเบียร์ไม่เสียงาน เทพจริงๆ ..เรื่องร้านอาหารยังไม่จบนะครับ เดี๋ยวจะมีต่อ และอีกอย่างนึง บ้านเกื้อเค้ามีบริการหลากหลายมากครับ วันหลังจะมาเล่าให้ฟังอีกที

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

"สวนอาหารบางบัว" จัดจ้านอาหารไทย

"สวนอาหารบางบัว" จัดจ้านอาหารไทย

บรรยากาศร้านสวนอาหารบางบัว
สำหรับผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆคนคงจะจำร้านอาหารที่มีชื่อ "สวนอาหารบางบัว" กันได้ เพราะสมัยหนึ่งที่ธุรกิจร้านอาหารยังไม่เฟื่อง(และเฝือ)เหมือนสมัยนี้ สวนอาหารบางบัวคือหนึ่งในร้านดังที่รู้จักกันดี

จนวันนี้บนเนื้อที่กว้างขวางกว่า 4 ไร่ บางบัวเปิดให้บริการมาได้ 21 ปีแล้ว ในบรรยากาศสวนอาหารที่มีทั้งส่วนของสวนลานน้ำพุและส่วนของห้องแอร์ อีกทั้งยังมีส่วนของห้องจัดเลี้ยงที่สามารถเพิ่มเติมบริการคาราโอเกะได้ด้วย โดยอาหารของที่นี่จะเน้นอาหารไทยเป็นหลัก แต่ก็มีอาหารจีน และอาหารทะเลให้เลือกด้วยเช่นกัน

ซี่โครงหมูสับผัดกะเพรา
สำหรับอาหารจานแรกที่ "ตระเวนกิน" สั่งมาลิ้มลองก็คือ ซี่โครงหมูสับผัดกะเพรา (100 บาท) เสิร์ฟมาหน้าตาเหมือนหมูสับทั่วไป แต่เมื่อได้เข้าปากเคี้ยวจะได้ความกรุบๆของซี่โครงหมูกระดูกอ่อนที่สับมา อย่างละเอียดเคี้ยวกินได้ทั้งหมดไร้ซึ่งกระดูก ผัดกับใบกระเพรา พริก กระเทียม หอยฉุยเผ็ดจัดจ้านอาหารไทย

ตามมาด้วย ปลาคังทอดกระเทียมพริกไทย (180 บาท) ปลาคังที่ใช้เป็นปลาคังสดๆ นำมาล้างทำความสะอาดเอาไส้ออกเรียบร้อย แล้วนำเครื่องผัดเช่นกระเทียม พริกขี้หนู และส่วนผสมของทางร้านลงไปผัดก่อน จากนั้นนำเนื้อปลาคังที่หันเป็นชิ้นๆไปทอดพอสุกแล้วนำไปผัดคลุกเคล้ารวมกับ เครื่องให้เข้าถึงเนื้อปลา เมื่อกินแล้วเนื้อปลาจึงกรอบนอกนุ่มใน เคี้ยวหอมกลิ่มกระเทียม

ปลาคังทอดกระเทียมพริกไทย
จานถัดมาเป็น ห่อหมกทะเลผัดเผ็ด (100 บาท) ใช้เนื้อห่อหมกที่ทำจากปลากราย และเครื่องแกงสูตรพิเศษของทานร้าน นำมาผัดใส่ปลาหมึก เนื้อปลากะพง กุ้ง รองจานด้วยใบยอและกะหล่ำซอย ออกมาในรูปแบบผัดรสชาติเหมือนห่อหมกแต่จะออกแห้งๆมันๆ เล็กน้อยและไม่เผ็ดมาก

ห่อหมกทะเลผัดเผ็ด
อาหารจานต่อมาได้แก่ ลาบปลาตะเพียน (100 บาท) ทางร้านนำปลาตะเพียนทั้งเนื้อและก้างมาสับละเอียดผสมเนื้อหมูสามชั้นที่หั่น เป็นชิ้นเล็กๆ ส่วนพริกทำลาบสั่งตรงมาจากเชียงใหม่รสชาติไม่เผ็ดมาก เคี้ยวกรุบกรอบด้วยหมู 3 ชั้น เสิร์ฟมาพร้อมน้ำซุปไข่ปลาตะเพียนที่ล้างทำความสะอาดมาอย่างดี ไม่คาว ใส่ตะไคร้ใบมะกรูดคล้ายเครื่องต้มยำน้ำใส รสชาติออกเปรี้ยวเล็กน้อย เนื้อไข่ปลานุ่มไม่เหนียวเคี้ยวหนับปาก และมีผักทานเคียงเช่น ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว ใบโหระพา กะหล่ำ

ลาบปลาตะเพียน
พุงปลาช่อนผัดกะเพรา (150 บาท) เป็นอาหารไทยอีกหนึ่งเมนูที่น่าลิ้มลอง พุงปลาช่อนที่นี่ทางร้านล้างทำความสะอาดหลายครั้งเพื่อให้สะอาดจริงๆ จากนั้นก็นำมาผัดคล้ายกับผัดกะเพรา แต่เน้นให้รสออกเผ็ดและจัดจ้านเป็นพิเศษเพื่อดับความคาว แต่ขอบอกว่าเคี้ยวจะหนึบหนับมันปากนัก

สลับอารมณ์จากเมนูแห้งๆมามาเป็น เกาเหลาลูกชิ้นเอ็นหมู (120 บาท) ที่เสิร์ฟมาในลักษณะของหม้อไฟ ทางร้านคัดสรรลูกชิ้นเอ็นหมูคุณภาพดีใช้เนื้อหมูล้วนๆ มาลวกใส่ถั่วงอก หมูสับ กระเทียม ผักบุ้ง และน้ำซุปที่ใช้ซุปกระดูกหมูจึงหวานน้ำซุป เคี้ยวกรึบกรุบลูกชิ้นเอ็น

พุงปลาช่อนผัดกะเพรา
เมนูสุดท้ายคือ ซี่โครงหมูตุ๋นเยื่อไผ่ (180 บาท) ใช้ซี่โครงหมูเนื้อๆ เยื่อไผ่แท้ๆคัดคุณภาพ เห็ดหอมอย่างดี มาตุ๋นกับเครื่องยาจีนในน้ำซุปกระดูกหมูที่ปรุงรสโดยใส่ซีอิ้วขาว ตุ๋นทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นใช้ได้ รสชาติน้ำซุปหอมเข้มข้น เนื้อหมูเปื่อยนุ่มเคี้ยวง่าย เยื่อไผ่เคี้ยวนุ่มกำลังดี

ไม่เพียงเท่านั้นสวนอาหารบางบัว ยังมีอีกหลายเมนูรสเด็ดให้ลองลิ้มกันทั้งอาหารไทยและจีน เช่น ยำไก่บ้าน (90 บาท), หน่อไม้ทะเลผัดน้ำมันหอย (250 บาท), แกงคั่วหอยขม (80 บาท), ปูหลน (80 บาท) เป็นต้น และต้องขอบอกไว้อีกอย่างว่าใครที่มาจัดเลี้ยงหรือจะมานั่งกินอาหารเฉยๆหากนำเหล้ามาดื่มทางร้านไม่คิดค่าเปิดขวด

เกาเหลาลูกชิ้นเอ็นหมู
ส่วนในทุกวันศุกร์-เสาร์ บริเวณลานน้ำพุจะมีดนตรีคาราโอเกะเปิดฟรีให้ร้องเพลงกันอย่างเพลิดเพลิน เรียกว่าใครสนใจอาหารและบรรยากาศแบบนี้ สามารถเดินทางไปรับอรรถรสด้วยตัวเองได้ที่ "สวนอาหารบางบัว"

ซี่โครงหมูตุ๋นเยื่อไผ่
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สวนอาหารบางบัว สาขาบางเขน ตั้งอยู่ที่13 ถนนพหลโยธิน บางเขน กทม. การเดินทาง หากมาทางแยกมหาวิทยาลัยเกษตรฯ ตรงมาทางเส้นถนนพหลโยธิน ผ่านมหาวิทยาลัยศรีปทุมทางฝั่งขวา ผ่านกรมทางหลวงชนบท แล้วข้ามสะพานข้ามคลองแล้วชิดซ้าย สวนอาหารบางบัวจะอยู่ทางซ้ายมือ ตรงข้ามกับกรมทหารราบที่ 11 รอ. เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.30-22.30 น. โทร . 0-2551-1793, 0-2552-6088 และสวนอาหารบางบัว สาขาปทุมธานี ตั้งอยู่ที่ ถนนติวานนท์ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี โทร.0-2979-6970-1

Waterside มื้อสบาย ริมสายน้ำ

Waterside มื้อสบาย ริมสายน้ำ

บรรยากาศร้าน Waterside ยามพลบค่ำ
กินข้าวนอกบ้านทั้งที สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้รสชาติอาหารคือเรื่องของบรรยากาศ และเพราะตระหนักถึงข้อนี้ "ตระเวนกิน" เลยพาแวะเวียนมาที่ร้านอาหาร "Waterside Resort Restaurant" ร้านอาหารสไตล์ Contemporary Resort ที่ตั้งอยู่เลียบทางด่วนรามอินทรา ถนนอีกเส้นหนึ่งของกรุงเทพฯที่มีร้านอาหารให้เลือกสรรมากมาย

อีกหนึ่งบรรยากาศของ Waterside Resort Restaurant
Waterside มีความพิเศษด้วยทำเลที่ตั้งที่กว้างขวาทั้งที่จอดรถและตัวที่ตั้งร้านที่ อยู่บนผืนน้ำ พื้นที่กว่า 15 ไร่ รองรับลูกค้าได้กว่า1,000 ที่นั่ง โดยมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นคือ ที่นั่งทุกโต๊ะที่นี่ชิดริมน้ำ ดังนั้นมาที่ร้านนี้ไม่ต้องจองที่นั่งริมน้ำก็ได้นั่งแน่นอน มีทั้งนั่งแบบ out door และ in door การตกแต่งของทางร้านก็เก๋ไก๋ไม่เบา ด้วยโคมไฟทรงสูงรายล้อมอยู่ทั่วร้าน เน้นความร่มรื่นของแมกไม้และความกลมกลืนลงตัวของธรรมชาติที่แวดล้อมผืนน้ำ โอบล้อม Waterside ให้แลดูเป็นส่วนตัวจากโลกภายนอก เสมือนนั่งกินข้าวอยู่ในรีสอร์ท พร้อมมีดนตรีสดเล่นคลอเบาๆทุกค่ำคืน

บรรยากาศในห้องคาราโอเกะ
นอกจากนี้ยังมีห้องคาราโอเกะทันสมัยให้บริการอีก 13 ห้อง ราคาห้อง ตั้งแต่ 1,500 -3,500 บาท รองรับลูกค้าได้ตั้งแต่ 10-40 ท่าน ทุกห้องชิดริมน้ำเช่นกัน ซึ่งภายในแต่ละห้องมีบรรยากาศแตกต่างกันไป ทั้งสีของห้อง และโซฟาที่ออกแบบให้ลูกค้านั่งขับร้องเพลงอย่างสบาย ระบบภาพติดตั้งด้วยจอขนาด 50 นิ้ว และสมบูรณ์แบบด้วยระบบเสียงจากลำโพง JBL เรียกได้ว่าร้องเสียงแบบไหนก็เพราะ ในส่วนของคาราโอเกะ หากสนใจต้องจองก่อนล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์

ยำวอเตอร์ไซด์
มีบรรยากาศที่มี พร้อมที่นั่งแสนสุขแล้ว ก็ต้องมาเปิดเมนูดูอาหารกันบ้าง ด้วยเมนูหลากหลายกว่า300 เมนู เน้นอาหารไทยเป็นส่วนใหญ่ มีอาหารนานาชาติปะปนอยู่บ้าง จึงทำให้เลือกกินได้อย่างสนุกทีเดียว

ขอเรียกน้ำย่อยก่อนด้วย ยำวอเตอร์ไซด์ (180 บาท) ยกมาทั้งทะเลด้วยหน้าตาน่ากิน เพราะมากด้วยสารพัดเครื่องทั้งปลาหมึก กุ้ง หอยนางรม ปลากะพง ทุกอย่างถูกนำไปลวกสะดุ้งพอสุก พร้อมด้วยไข้เยี่ยวม้าและกระเพาะปลาอย่างดี ก่อนนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องยำจนออกมาครบเครื่องทั้งเปรี้ยว ทั้งเผ็ด รสจัดถูกใจ

ขาหมูเยอรมันทอดกรอบ
ต่อกันด้วย ขาหมูเยอรมันทอดกรอบ (290 บาท) ขาหมูทอดจนกรอบเหลืองยกใส่จานมาทั้งขา เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่างมันบด และผักดองแบบฉบับ Waterside พร้อมด้วยน้ำจิ้มขาหมูรสเด็ดรสชาติกลมกล่อมด้วยขาหมูที่ถูกทอดจนหนังกรอบ แต่เนื้อในยังอ่อนนุ่ม กินคู่กับน้ำจิ้มแสนจะเข้ากัน

ปลากะพงแช่น้ำปลา
อาหารที่นี่เสิร์ฟเร็ว รอไม่นาน ถัดมาไม่กี่นาที ก็ได้ลิ้มลอง ปลากะพงทอดแช่น้ำปลา (290 บาท) ปลากะพงตัวโตถูกนำมาผ่าซีก ทอดจนเป็นสีอำพัน แล้วถูกนำมาแช่กับน้ำปลาสูตรลับที่ปรุงมาเป็นพิเศษ จานนี้ตัวปลาเนื้อแน่นหวาน ทั้งกรอบและนุ่ม รสชาติหวานแกมเค็มที่ได้จากการแช่น้ำปลาเป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าลอง

คอหมูย่างกระทะร้อน
อีกสักเมนูกับ คอหมูย่างกระทะร้อน (180 บาท) เสิร์ฟคอหมูย่างมาบนกระทะร้อน โชยกลิ่นหอมฟุ้งมาแต่ไกล ราดจนฉ่ำด้วยน้ำจิ้มสามรส จนได้ทั้งความหอมหวานของเนื้อหมูและเปรี้ยวเผ็ดหวานจากน้ำจิ้ม จะกินเล่นเพลินๆก็ได้ หรือ กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆก็เข้าที

ต้มยำกุ้งเผามะพร้าวอ่อน
ปิดท้ายด้วย ต้มยำกุ้งเผามะพร้าวอ่อน (เล็ก 180 บาท,ใหญ่ 250 บาท) ต้มยำกุ้งน้ำข้นที่ใช้กุ้งแม่น้ำขนาดกลาง ต้มกับเครื่องสมุนไพรไทยและมะพร้าวอ่อน เสิร์ฟในหม้อไฟร้อนควันโขมง ซดร้อนๆได้รสชาติต้มยำแบบไทยๆ

มีดนตรีคลอเบาๆ
หากยังไม่หนำใจ จะสั่งเพิ่มก็ยังเหลืออีกสารพัดเมนูให้เลือกทั้ง ยำยอดกระถินหอยนางรม(130 บาท),เนื้อปลาคังผัดฉ่ากระทะร้อน(200 บาท),แกงเลียงกุ้งสดผักหวานปลากรอบ ( เล็ก140 บาท/ใหญ่ 200 บาท),ห่อหมกเนื้อปูใบยอ (150 บาท),คะน้าผัดไข่แดงกุ้งสด(140 บาท),เนื้อปลาเก๋ายัดไส้กุ้ง(140 บาท) เลือกกินข้าวในบรรยากาศดีๆโอบล้อมด้วยสายน้ำ ลองมาที่ "Waterside Resort Restaurant"



อิ่มในบรรยากาศใกล้ชิดริมน้ำ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้านอาหาร "Waterside Resort Restaurant" ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. การเดินทางไป "Waterside" จากแยกเกษตร-นวมินทร์ ขับรถมาตามเส้นถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ขับรถเลียบทางด่วนตรงไปเรื่อยๆ แล้วไปกลับรถใต้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ แล้วขับรถเลียบมาเรื่อยๆสังเกตป้ายร้าน waterside ทางซ้ายมือ เมื่อเจอป้ายร้านแล้วขับรถเลี้ยวซ้ายเข้ามาอีกเพียง50เมตรก็จะถึงร้าน เปิดบริการตั้งแต่เวลา 17.00 น.-01.00 น. ทุกวัน โทร. 0-2943-9496-7

ที่มา www.manager.co.th

“โตเกียว เทเบิล” เข้มข้นอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ

“โตเกียว เทเบิล” เข้มข้นอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ

บรรยากาศภายในร้าน “โตเกียว เทเบิล”
ต้องยอมรับว่าตอนนี้ร้านอาหารญี่ปุ่นจากแดนอาทิตย์อุทัยมีเปิดให้ บริการอย่างมากมายในบ้านเรา ไม่ว่าจะอยู่ย่านในของมุมเมืองก็จะมีร้านอาหารจากแดนปลาดิบให้เลือกเข้าไป กินได้อย่างตามใจปาก ซึ่งแต่ละร้านอาหารก็มักจะมีคอนเซปต์ของร้าน และรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ และมีจุดเด่นที่ดึงดูดเหล่านักกินอาหารญี่ปุ่นที่แตกต่างกันไป เรียกว่านักกินอาหารญี่ปุ่นชอบสไตล์และรสชาติอาหารญี่ปุ่นแบบไหน ก็เลือกไปกินกันได้ตามอำเภอใจ

อย่างในมื้อนี้ “ตระเวนกิน” ก็มีร้านอาหารญี่ปุ่นอีกหนึ่งร้านที่น่าสนใจมาแนะนำให้กับสาวกอาหารญี่ปุ่นได้ไปลองลิ้มรสชาติกัน ร้านนี้มีชื่อว่า “โตเกียว เทเบิล” ตั้ง อยู่ย่านเอกมัย ร้านนี้มีความน่าสนใจตั้งแต่บรยากาศร้าน ที่เมื่อเข้ามาแล้วจะสัมผัสได้ถึงความสงบ ไม่วุ่นวาย แถมได้อารมณ์เหมือนมานั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน

มุมเรือนไทยชวนนั่งสบายๆ
เพราะทางร้านได้นำเอาบ้านเก่ามาตกแต่งใหม่ เป็นสไตล์แบบไทยผสมญี่ปุ่น เน้นความเป็นธรรมชาติรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีส่วนของโต๊ะนั่งให้เอกนั่งได้ตามชอบใจ มีทั้งโซนมุมเรือนไทยด้านหน้าติดแอร์นั่งสบาย ส่วนด้านในตัวบ้านจัดเนโต๊ะเก้าอี้ไม้ดูอบอุ่นนั่งสบาย มีมุมซูชิบาร์บริการด้วย ส่วนด้านบนของบ้านมีห้องส่วนตัวบริการ 3 ห้อง

มาถึงความน่าสนใจของอาหารที่ร้านนี้ให้บริการอาหารญี่ปุ่น ที่โดดเด่นและแตกต่างไปจากร้านอื่นๆ คือบริการอาหารญี่ปุ่นพื้นเมืองแบบต้นตำรับ คัดสรรความหลากหลายของเมนู และการเลือกสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ โดยเฉพาะอาหารทะเลจะสั่งตรงจากชาวประมงที่ประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว เรียกว่าได้กินความสดเหมือนที่ญี่ปุ่นไม่มีผิดเพี้ยน และนอกจากจะมีอาหารญี่ปุ่นแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารไทยบริการด้วย และมีอาหารแนวฟิวชั่นแปลกใหม่ที่ผสมผสานระหว่างอาหารญี่ปุ่นกับอาหารไทยให้ ลงตัวทั้งรสชาติและสีสันหน้าตา อันถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

ปอเปี๊ยะสดโตเกียว เทเบิล
ถึงตรงนี้คงอยากจะรู้แล้วล่ะสิว่าอาหารจานเด่นของที่นี่มีอะไรน่ากิน บ้าง ถ้าอย่างนั้นตามมาเปิดเมนูสั่งอาหารกันได้เลยด้วยจานแรกเป็น ปอเปี๊ยะสดโตเกียวเทเบิล (170 บาท+) เป็นแผ่นแป้งปอเปี๊ยะสดมีไส้กุ้ง ไก้ฉีก ผักเมียวหงะจากญี่ปุ่น ไข่ฝอย แครรอท หัวไชเท้า ผักชี กุ้นฉ่ายขาว ห่อม้วนหั่นมาเป็นชิ้น เคี้ยวปอเปี๊ยะเต็มปากเต็มคำผักสดกรอบ กินกับน้ำจิ้มปอเปี๊ยะรสเด็ดเข้ากัน

เทมปุระทอดรวม
จานต่อมานำเสนอ เทมปุระทอดรวม (180 บาท+ ถ้าสั่งเป็นเซ็ทเพิ่มอีก 80 บาท มีข้าวสวย ซุป ผักดอง ไข่ตุ๋น กับแกล้มอีก 1 อย่าง พร้อมเสิร์ฟชาเขียวฟรีเติมตลอด และมีชาหรือกาแฟให้เลือก) เทมปุระรวมจานนี้มีกุ้ง ปลากะพง ผักต่างๆ ชุบแป้งที่ปรุงเป็นพิเศษ แล้วลงทอดในน้ำมันใหม่ๆ ทำให้เทมปุระของที่นี่เคี้ยวกรอบนุ่ม ไม่อมน้ำมัน

บะหมี่เย็นต้มยำ
ตามมาด้วยเมนูจานเส้นอย่าง บะหมี่เย็นต้มยำ (150 บาท+ เป็นเซ็ทเพิ่มอีก 80 บาท มีข้าวสวยหรือข้าวผัด มีสลัดปลาดิบ อาหารย่าง ) บะหมี่เย็นต้มยำเมนูนี้เป็นแบบแห้งขลุกขลิก เส้นบะหมี่เหลืองเส้นกลม เอามาผสมกับน้ำปรุงต้มยำที่ปรุงมาจากญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ใส่แตงกวา แครอท ไข่เจียว และไก่ฉีก เวลากินคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ม้วนเส้นหมี่ส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มหอมกลิ่นต้มยำอ่อนๆ และได้รสชาติต้มยำที่กลมกล่อม ไม่ได้เผ็ดจัดจ้านมากแบบไทยๆ

บาราชิราชิ
ต่อด้วยข้าวหน้าปลาดิบรวมที่มีชื่อว่า บาราชิราชิ (300 บาท+) ข้างล่างเป็นข้าวปรุงรส ด้านบนมีสารพัดปลาดิบมีทั้งปลาแซลมอน ปลาคำปาจิจากญี่ปุ่น ปลาไหลจากญี่ปุ่น ปลาหมึก กุ้งต้ม หอยเชลล์ ไข่หวาน ไข่ปลาแซลมอน กินข้าวออกรสหวานๆ เปรี้ยวๆ เข้ากันกับปลาดิบสารพัด

ข้าวปั้น 7 คำ
จากนั้นมากินซูชิกันบ้างเป็น ข้าวปั้น 7 คำ (450 บาท+) ที่ปั้นเป็นทรงกลม มีข้าวปั้นหน้าปลาดิบ 3 คำ มีหน้าปลาทูน่าญี่ปุ่น หน้าปลาคำปาจิ หน้าหอยเชลล์ และมีหน้าผัก 4 คำมีหน้าผักมะเขือยาว หน้าหน่อไม้ฝรั่งพันด้วยปลาแซลมอน หน้าผักเมียวหงะ หน้าหน่อไม้ไทยต้มซีอิ้วสไตล์ญี่ปุ่น ข้าวปั้นแต่ละคำข้าวเคี้ยวนุ่มได้รสชาติกับหน้าต่างๆ

ไอศกรีมโมจิถั่วแดง
ส่งท้ายด้วยเมนูของหวาน ไอศกรีมโมจิถั่วแดง (75 บาท+) ไอศกรีมสามารถเลือกรสได้มี ชาเขียว เมลอน วนิลา และมีถั่วแดงบดที่ทางร้านทำเอง และโมจิลูกเล็กๆ ที่ทำเองเช่นกัน กินไอศกรีมเย็นๆ หวานฉ่ำเข้ากันกับถั่วแดงหวานหอม และโมจิเนื้อนุ่มนิ่มปาก

มุมโต๊ะนั่งด้านบน
และใช่ว่าเมนูจานเด็ดจะมีเพียงเท่านี้ เพราะยังมีอาหารจานเด่นที่ชวนกินอีกมากมาย อาทิ สลัดอิคุระกับปลาแซลมอน (250 บาท+) สลัดอโวคาโดแซลมอน (240 บาท+) สุกี้นึ่ง (ผักรวมหมูไก่ 180 บาท+, ทะเล 250 บาท+) ข้าวผัดต้มยำกุ้งกระทะหิน (220 บาท+, /280 บาท+) กุ้งทอดราดซอสสไตล์โตเกียวเทเบิล (150 บาท+, 220 บาท+) ข้าวผัดผงกะหรี่ทะเล (170 บาท+) ฯลฯ ที่ถ้าใครอยากจะลองลิ้มอาหารญี่ปุ่นแบบยุ่นแท้ๆ และอาหารไทยรสเด็ด ก็ชวนเชิญมากันที่ได้ร้าน “โตเกียว เทเบิล”

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“โตเกียว เทเบิล” (Tokyo Table) ตั้งอยู่ที่ 8/1 ซ.เอกมัย 6 ถ.สุขุมวิท 63 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม. การเดินทางมาจากถ.สุขุมวิท วิ่งตรงมายังซอยเอกมัย แล้วตรงเข้ามาที่เอกมัยซ.6 เลี้ยวเข้ามาในซอยนิดเดียวจะเห็นร้านโตเกียว เทเบิลเป็นบ้านอยู่ทางขวามือ จอดรถที่ร้าน และสามารถนำรถไปจอดได้ที่บิ๊กซี เปิดทุกวัน เวลา 11.30-14.00 น. และ 17.30-22.30 น. โทร. 0-2391-4103, 0-2714-2223

ที่มา www.manager.co.th