วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วังมัจฉา : บรรยากาศเย็นสบาย ริมบึงใหญ่ แถมอาหารก็อร่อยด้วย


หนึ่งในบรรดาร้านอาหารที่เกิดขึ้นมาใหม่ในช่วง 5-6 ปีหลังมานี่ เท่าที่ผมสังเกตจะเกิดขึ้นตามเส้นทางที่มีการตัดถนนเข้าไปใหม่ๆ หรือเป็นเส้นทางที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นเป็นทางคอนกรีต หรือลาดยาง รวมทั้งมักจะเป็นทำเลที่ผู้ที่ประกอบธุรกิจด้านบริการ มักจะมองลู่ทางทางด้านนี้ไว้เสมอ หากท่านเคยเดินทางมายังโคราชนะครับ ท่านคงต้องรู้จัก 3 แยก Big C และ ถ้าเลยแยกดังกล่าว ไปทางเส้นทางที่จะไปขอนแก่นราวๆ 3 กม. ท่านก็จะเจอกับ สี่แยกปีกาซัส ซึ่งสี่แยกนี้เป็นสี่แยกที่เชื่อมต่อระหว่างคนโคราชฝั่งทิศเหนือของถนนมิตรภาพ กับฝั่งในเมือง ตรงสี่แยกนี่แหละ ไม่ว่าจะเลี้ยวไปทางไหน คุณจะสามารถหาร้านอาหารอร่อยๆได้อย่างมากมายเลยล่ะครับ แต่หากใครไม่อยากทานอาหร ก็ขึ้นไปอาบน้ำตรงแยกปีกาซัสก็ได้ อิอิ ชั้น 12 นะครับ สนนราคาก็ต้องแต่ 1800 บาท อ้าว เฮ้ย ผิดเรื่องแล้ว พอๆ เข้าเรื่องร้านอาหารเลยดีกว่า

ตรงบริเวณสี่แยกนี้ หากข้ามไปทางทิศเหนือซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเดินทางไปยัง บ้านประโดก, ตำบลหมื่นไวย นั้น หากท่านมาจาก big c ท่านก็เลี้ยวซ้ายตรงแยกนี้ หรือหากท่านมาจากทางโรงพยาบาลมหาราช เท่าก็ ขับรถข้ามแยกไปเลย ตรงนี้แหละ!!! เมื่อพ้นแยกไปแล้วประมาณ 15-20 เมตร เท่านั้น ท่านจะเห็น ถนนเส้นเล็กๆราดยาง เรียบกริบ ด้านซ้าย (หากมองจากฝั่งปีกาซัสนะครับ) เส้นทางนี้แหละครับ ขับตรงไปเรื่อยๆ ท่านจะมีทั้งโรงแรมดีๆที่ไม่แพง รวมทั้งร้านอาหารอีกนับสิบร้านตลอดถนนเล็กๆเส้นนี้ ร้านอาหารวังมัจฉา อยู่ห่างจากแยกปีกาซัสไปประมาณ 3-4 กม. ครับ ไปไม่ยากครับ จากแยกก็ขับตรงอย่างเดียวเลย ตรง ตรงๆ ไปเรื่อยๆ ซึ่งจะเป็นการขับรถไปทางทิศตะวันตกนะครับ ถ้าท่านจะไปร้านนี้ตอนเย็นๆ จำไว้เลยครับ แดดจะแยงตาท่านได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ถ้าแดดไม่แยง แสดงว่าท่านหลงครับ

ร้านอาหารวังมัจฉา เป็นร้านหนึ่งที่ผมก็ไปบ่อยครับ มีแขก มีญาติ ก็มักจะมาร้านนี้เช่นกันครับ เนื่องจาก ร้านนี้เหมาะแก่การนั่งเล่น นั่งคุย ดริ๊งเบียร์ไป สบายๆ ไม่รีบไม่เร่งครับ ตรงกลางร้านจะเป็นบึงขนาดใหญ่ เป็นบึงที่ขุดขึ้นเองนะครับ ลมเย็นๆและไอเย็นจากน้ำทำให้อากาศสบายมากเลยครับ ทางร้านแบ่งโซนเป็น 2 โซนครับ โซนหนึ่งจะเป็นโซนแบบนั่งโต๊ะ ก็รองรับได้หลายสิบโต๊ะครับ มีวงดนตรีโฟร์คซองเล่นให้ฟังแบบสบายๆครับ สำหรับอีกโซน ก็จะเป็นซุ้มๆ รายล้อมอยู่รอบๆบึงนั่นแหละครับ มีราวๆ 15-20 ซุ่ม เลยล่ะครับ แต่ละซุ้มก็รองรับลูกค้าได้ นับสินคนเลยล่ะครับ

เรื่องอาหาร อาหารร้านนี้ ก็อร่อยเลยทีเดียวครับ ก็จะมาเป็นแนว ปลาช่อนลุยสวน ตำยำ ต้มปลาคัง ฯลฯ สารพัดสาระเพ ครับจารนัยไม่หมดหรอกครับ ตอนนี้เพิ่งเขียน blog ใหม่ๆ ยังไม่ได้เอารูปมาให้ดูครับ แต่ไปจะส่งรูปมาให้เต็มเหยียดเลยครับ ทางร้านได้จัดชุดเป็นอาหารชุดด้วยนะครับ ชุดนึง ก็ 700-1000 ราคาแน่นอนผมจำไม่ได้ครับ จำได้แต่ว่ามีครั้งนึง มากัน 4 คน สั่งชุด 800 กินกันไม่หมดครับ อิ่มมากๆ อีกอย่างนึงครับ ในบึงเย็นๆของร้านนี่จะเป็นเส้นทางของการเสิร์ฟอาหารนะครับ เพราะร้านนี้เสิร์ฟอาหารโดยใช้เรือเร็วมาส่งครับ เนื่องจากบึงมันกว้างครับ ถ้าเดินส่งคงไม่ทันกินกันพอดี แถมบางทีก็มีเรือมาขายส้มตำอร่อยๆ ไส้กรอก มากมายครับ มาโคราชลองแวะไปดูนะครับ ชอบหรือไม่ชอบก็มา comment บอกกันนะครับ

หลังจากเขียนมาแล้ว 2 blog ครั้งนี้ ขอลงนามปากกานะครับ จะได้จำกันได้

โดย..ประธานขวานซิ่ง

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ปึงโอชา : ร้านข้าวต้ม ไำม่มาไม่ได้แล้ว

ร้านข้าวต้มในโคราช? เยอะแยะครับ มีมากมายหลายร้าน บางร้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านในเมืองหน่อย ก็จะมีทั้งร้านข้าวต้มปลาเศรษฐี ข้าวต้มหัวปลา ข้าวต้มเศรษฐี อภิมหาเศรษฐี ฯลฯ หลายร้านผมเองก็ไม่ได้ไปกินนะครับ ก็ยังไม่ทราบว่าอร่อยถูกใจและถูกเงิน คนเบี้ยน้อยหอยน้อยแบบผมหรือเปล่า แต่ถ้าถามว่าร้านไหนไปบ่อย ต้องนี่เลยครับ "ปึงโอชา"

ร้านข้าวต้มปึงโอชานี้ เิดิมทีเดียวเท่าที่จำได้ จะตั้งอยู่ใกล้ๆกับแยก Big C โคราช อยู่ติดๆกับโรงเรียนมัธยมแห่งนึง จำชื่อไม่ได้แล้ว แต่ก่อนร้านเป็นห้องแถวอาคารพาณิชย์อยู่ ต่อมาขยับขยาย นัยว่ารวยมากแล้ว เลยย้ายมาตั้งอยุ่ ณ ที่ปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นทำเลทองเลยล่ะครับ คือ อยู่ติดกับ บขส.ใหม่ โคราช เลย (ถัดจาก โชว์รูมโตโยต้ามานิดนึง)

ตอนนี้ทางร้านปึงโอชา เนี่ย คนแน่นครับ แทบทุกวัน ยิ่งช่วงวันเทศกาลด้วยแล้ว แน่นครับ โต๊ะ ก็มีราวๆ สัก50 โต๊ะ เห็นจะได้ ก็ หมุนๆเวียนล่ะครับ อดทนเอาหน่อย กินข้าวร้านข้าวต้ม ไม่ได้นั่งแช่นานๆซะเมื่อไร กินเสร็จแล้วก็ไปใช่มั้ยครับ เว้นแต่สั่งเบียร์มาหลายขวด ก็นั่งลากกันยาวหน่อย ร้านปึงโอชานี้ ไม่มีห้องแอร์นะครับ open air ทั้งร้าน มีพัดลมเฉยๆ แต่รวมๆ ร้านก็ไม่ได้ร้อนสักเท่าไร เพราะ ค่อนข้างโล่งครับ ติดถนนมิตรภาพ รอบๆ ก็โปร่ง ก็ถือว่า ไม่อึดอัดมากครับ

บรรยากาศภายในร้านนี่ต้องบอกเลยว่า นี่คือ บรรยากาศร้านข้าวต้ม! ไฟนีออนหลาดยาวๆ สว่างๆ เห็นทุกอณูของกับข้าว โดยไม่ต้องใช้แสงไฟอะไรมาหลอกสายตาว่าอาหารสีสันน่ากินขนาดไหน ไฟขาวโป๊ะ ขนาดนี้ ชัดเจนครับ แต่ควรระวังหน้าฝนในบางวันนะครับ เพราะฝนที่ตกเสร็จใหม่ๆ มักจะมีแมงเม่ามาตอมไฟซะเยอะ ร้านนี้ เจอบ้างบางทีครับ ปีละ ครั้งสองครั้ง ใครไปได้เจอก็ถือว่าโชคดีครับ
ของงี้นานๆถึงมีครับ ซำบายใจได้ ที่จอดรถสบายพอควรครับ เพราะติดถนนใหญ่ เอาหัวเสียบๆๆ ได้เยอะอยู่

มาถึเมนูของร้านนี้ ที่ไปทีไรก็ต้องสั่ง (ผมพยายามจะไม่ดัดจริตบอกว่า " โอว อร่อยมาก ยอดเยี่ยม fantastic" แบบนักวิจารณ์ทางทีวีนะครับ ผมจะบอกแบบบ้านๆ เอาละกัน)

- หนำเลี้ยบผัดหมูสับ อร่อยครับ กินครั้งแรกในชีวิตก็ร้านนี้ และเมื่อได้ไปกินที่อื่นมาบ้าง ก็ถือว่าร้านนี้ผัดได้แห้ง อร่อยดี ถึงแม้หลังๆจะได้ปริมาณน้อยลงไปบ้าง ทั้งนี้คงเป็นเพราะการผลิตลูกหนำเลี๊ยบลดลงมาก เพราะหันไปผลิตลูกฟุตบอลแทนเพราะเป็นที่นิยมกว่า (มั่วไปแล้ว)

-ผัดผักบุ้งไฟแดง ก็ทั่วๆไปครับ ไม่แย่ ไม่ดีมาก ตรงตามมาตรฐานร้านข้าวต้มครับ ไปทีไรก็สั่งทุกที ในราคา จานละ 30 บาท ครับ

-ตุ๋นมะระ / ต้มจับฉ่าย ร้านเค้าต้มไว้รอแล้ว สั่งปุ๊บ ก็ตักมาเลย เหมาะสำหรับวันไหน ลูกค้าแน่นๆ แล้วท่านไม่อยากท้องกิ่วรอ ท่านก็สั่งอันนี้ มาก่อนเลยครับ พอถูไถไปได้ก่อน

-ผัดทอด ยำต่างๆ ตามมาตรฐานร้านข้าวต้มครับ จะมียำนึงอร่อยดี ยำปลาสลิดแห้ง โอว อร่อยครับ วันผมกินครั้งแรก ผมก็เพิ่งรู้นี่แหละครับว่าปลาสลิดน่ะ มันอร่อย และรู้เพิ่มอีกว่า มันเริ่มจะหาซื้อยากขึ้นทุกวันๆ

ไปที่ร้านจะได้รับบริการเท่ๆจาก กัปตัน ท่านนึง ผมเห็นท่านมา เกือบๆ จะ 15 ปีแล้วมั้งครับ บริการ รับออร์เดอร์ เค้าจะใส่เสื้อกั๊กแบบ นร.นอก แต่ก่อน มีกั๊กสีชมพู เดี๋ยวนี้ เน้น เป็นกั๊กสี เข้มๆ ผมไม่ทราบชื่อพี่เค้านะครับ ใครทราบก็โพสบอกหน่อยนะครับ อยากรู้เหมือนกัน